คู่มือดูแลฟัน ฟันแท้ของเด็กขึ้นเมื่อไหร่? พร้อมวิธีดูแลให้รอยยิ้มสวยตลอดชีวิต

ฟัน ฟันแท้ ของ เด็ก ขึ้น เมื่อ ไหร่ วิธี ดูแล รอยยิ้ม สวย มั่น ใจ

วันนี้ เดนต้าจอยมีข้อมูลดีๆมาฝากกันอีกเช่นเคยนะคะ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ต้องดูแลบุตรหลานร่วมด้วย จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ตามมาอ่านกันเลยค่ะ

พัฒนาการของฟันในเด็ก เริ่มต้นอย่างไร

พัฒนาการของฟันในเด็กจะเริ่มจากฟันน้ำนม ซึ่งจะเริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน โดยที่ฟันหน้าด้านล่างจะขึ้นมาก่อน ตามมาด้วยฟันหน้าบน และจะทยอยขึ้นจนครบ 20 ซี่ เมื่อเด็กอายุประมาณ 3 ปี

ลำดับการขึ้นของฟันน้ำนม ตามปกติจะเป็นดังนี้ค่ะ

ช่วงอายุ 6-12 เดือน: ฟันหน้าล่างจะขึ้นก่อน ตามมาด้วยฟันหน้าบน
ช่วงอายุ 12-18 เดือน: ฟันกรามล่างและฟันกรามบนจะเริ่มขึ้น
ช่วงอายุ 18-24 เดือน: ฟันเขี้ยวจะเริ่มขึ้น
ช่วงอายุ 24-30 เดือน: ฟันกรามซี่ที่สองจะขึ้น

สิ่งที่พ่อแม่ควรรู้เกี่ยวกับพัฒนาฟันของเด็ก

ในเด็กแต่ละคน อาจมีพัฒนาการของฟันที่แตกต่างกันไป บางคนอาจมีฟันขึ้นเร็วกว่าหรือช้ากว่าเกณฑ์ปกติ

หากเด็กอายุ 10 เดือนขึ้นไปแล้วฟันยังไม่ขึ้น ควรปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางทันตกรรมสำหรับเด็ก เมื่อฟันเริ่มขึ้น เด็กอาจมีอาการคันเหงือก งอแง หรือไม่สบายตัว การดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นมีความสำคัญมากเพื่อป้องกันปัญหาฟันผุ จนอาจทำให้สูญเสียฟันน้ำนมก่อนเวลาอันควร

การดูแลฟันน้ำนม

แปรงฟันให้เด็กอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (เช้าและก่อนนอน)
ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสมกับอายุของเด็ก โดยส่วนใหญ่ยาสีฟันของเด็กมักจะมีปริมาณฟลูออไรด์อยู่ที่ 500 ppm.
หลีกเลี่ยงการให้เด็กรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงเป็นประจำ อาจให้ทานได้บ้าง แต่หลังการรับประทานควรแปรงฟันให้เด็กด้วยนะคะ
พาเด็กไปพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพฟัน อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

แล้วฟันแท้มีกี่ซี่ ฟันแท้ซี่แรกขึ้นเมื่อไหร่ ลำดับการขึ้นของฟันแท้

ฟันแท้ จะเริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6-7 ปี โดยฟันแท้ซี่แรกที่ขึ้นจะเป็นฟันกรามแท้ซี่แรก (ช่วงอายุ 6-7 ปี) ซึ่งในตำแหน่งนี้ จะไม่มีฟันน้ำนมจองที่ไว้อยู่ หลังจากนั้นฟันแท้ซี่อื่นๆจะทยอยขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมที่หลุดออกไป และจะทยอยขึ้นจนครบ 32 ซี่ โดยฟันกรามซี่ที่สามจะขึ้นมาในช่วงอายุ 17-21 ปี ซึ่งถ้าหากไม่มีพื้นที่เพียงพอให้ฟันกรามซี่สุดท้ายขึ้นมาได้ ก็จะกลายเป็นฟันที่เรียกว่าฟันคุดนั่นเอง

ลำดับการขึ้นของฟันแท้โดยทั่วไป:

ฟันกรามแท้ซี่แรก 6-7 ปี
ฟันหน้า 7-8 ปี
ฟันเขี้ยว 10-12 ปี
ฟันกรามน้อย 10-12 ปี
ฟันกรามแท้ซี่ที่สอง 12-13 ปี
ฟันกรามซี่ที่สาม 17-21 ปี ( บางคนอาจไม่มีหรือขึ้นช้ากว่านี้หรือขึ้นไม่ได้ก็จะเป็นเป็นฟันคุด )

ข้อควรรู้

ลำดับการขึ้นของฟันแท้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม สุขภาพ และโภชนาการ หรือถ้าหากฟันน้ำนมหลุดก่อนกำหนด อาจส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ ทำให้ฟันขึ้นผิดตำแหน่งหรือเกิดปัญหาฟันซ้อน ฟันเกได้.

ดังนั้น ควรดูแลทั้งฟันน้ำนมและฟันแท้ ให้แข็งแรงและสะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพฟัน เช่น ฟันผุ โรคเหงือก ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้สูญเสียฟันได้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้

การขึ้นของฟันแท้เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อช่วงเวลาที่ฟันแท้จะขึ้น การเรียงตัวของฟัน และสุขภาพโดยรวมของฟัน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบ มักเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้

1. พันธุกรรม ประวัติครอบครัวที่มีการขึ้นของฟันแท้ช้าหรือเร็ว อาจส่งผลต่อช่วงเวลาที่ฟันแท้ของเด็กจะขึ้น

2. โภชนาการ การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น แคลเซียมและวิตามินดี อาจส่งผลให้ฟันแท้ขึ้นช้าได้

3. สุขภาพช่องปาก การดูแลสุขภาพฟันน้ำนมเป็นสิ่งสำคัญ ฟันน้ำนมที่ผุหรือหลุดก่อนกำหนด อาจส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ และสามารถส่งผลทำให้ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่งได้

4. โรคประจำตัวบางชนิด เช่น ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน หรือภาวะเตี้ยแคระแกร็น อาจทำให้ฟันแท้ขึ้นช้า

5. การบาดเจ็บ การบาดเจ็บที่ขากรรไกร ในช่วงเวลาที่ฟันแท้กำลังสร้างหน่อฟัน หรือกำลังจะขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการขึ้นของฟันแท้ ทำให้ฟันขึ้นผิดตำแหน่ง หรือเกิดการซ้อนเก

6. การดูแลสุขภาพช่องปาก สุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี เช่น การสะสมของคราบหินน้ำลาย อาจทำให้เหงือกอักเสบและส่งผลต่อการขึ้นของฟันได้

7. การสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนด อาจทำให้ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่ง หรือเกิดการซ้อนเกได้

8. ตำแหน่งของหน่อฟัน หากหน่อฟันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น นอน หรือเอียง อาจทำให้ฟันไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติ ซึ่งหากต้องการทราบตำแหน่งของหน่อฟัน อาจต้องมีการตรวจวินิจฉัยด้วยภาพถ่ายรังสี ( X-Ray )

ปัญหาที่มักจะพบบ่อยในระหว่างที่ฟันแท้ขึ้น

ในช่วงเวลาที่ฟันแท้กำลังขึ้น มักเจอปัญหาบางอย่างได้ เช่น ฟันแท้ขึ้นซ้อนฟันน้ำนม ฟันแท้ขึ้นไม่ตรงตามตำแหน่งที่ควรจะเป็น ฟันแท้ขึ้นช้ากว่าปกติ และฟันผุบริเวณหลุมร่องฟันกราม นอกจากนี้ อาจมีอาการเจ็บเหงือกบริเวณที่ฟันแท้กำลังขึ้น หรือรู้สึกไม่สบายในช่องปากขณะเคี้ยวอาหาร

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น

1 ฟันแท้ขึ้นซ้อนฟันน้ำนม เมื่อฟันแท้เริ่มงอก แต่ฟันน้ำนมยังไม่หลุด ทำให้ฟันแท้ขึ้นซ้อนหรือเบียดกับฟันน้ำนม.

วิธีแก้ไข หากฟันน้ำนมไม่หลุดตามธรรมชาติ ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ถอนฟันน้ำนมออกเพื่อให้ฟันแท้ขึ้นได้ตามปกติ หรืออาจพิจารณาจัดฟันเพื่อแก้ไขการเรียงตัวของฟัน

2 ฟันแท้ขึ้นไม่ตรงตำแหน่ง ฟันแท้อาจขึ้นเบี้ยว เอียง หรือขึ้นผิดตำแหน่ง.

วิธีแก้ไข ทันตแพทย์อาจแนะนำให้จัดฟันเพื่อปรับตำแหน่งของฟันให้ถูกต้อง.

3 ฟันแท้ขึ้นช้า การขึ้นของฟันแท้อาจล่าช้ากว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาทางสุขภาพหรือพันธุกรรม.

วิธีแก้ไข ทันตแพทย์จะตรวจหาสาเหตุและให้คำแนะนำที่เหมาะสม.

4 ฟันผุบริเวณหลุมและร่องฟันกราม เนื่องจากฟันกรามแท้ที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ มักมีหลุมและร่องฟันที่ลึก ทำให้เศษอาหารตกค้างและเกิดฟันผุได้ง่าย

วิธีแก้ไข การแปรงฟันที่ถูกวิธีและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ รวมถึงพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง สำหรับในกรณีที่หลุมร่องฟันลึก แนะนำให้ทำการเคลือบหลุมร่องฟัน เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

5 รู้สึกเจ็บบริเวณเหงือก การขึ้นของฟันแท้ บางครั้งอาจทำให้เหงือกบริเวณนั้นบวมและเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เคี้ยวอาหาร.

วิธีแก้ไข สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวม หรือหากมีอาการเจ็บมาก ทันตแพทย์อาจให้ทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด

วิธีการดูแลสุขภาพฟันแท้ให้แข็งแรง

1 ดูแลตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม การดูแลฟันน้ำนมให้แข็งแรง จะช่วยให้ฟันแท้ขึ้นได้อย่างเป็นปกติ

2 แปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ

3 พบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงทีตั้งแต่ตรวจเจอ

Denta-joy สามารถวางแผนจัดฟันเด็กได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบหรือตั้งแต่ฟันแรกซี่แรก

Denta-joy เราเชื่อว่าการดูแลรอยยิ้มที่สวยและมั่นใจ ควรเริ่มตั้งแต่ฟันแท้ซี่แรกเริ่มขึ้น เพราะในช่วงอายุ 6 – 12 ปี เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ฟันน้ำนมและฟันแท้อยู่ร่วมกัน หากพบความผิดปกติ เช่น ฟันล่างสบคร่อมฟันบน ฟันซ้อนเกรุนแรง ฟันกัดเบี้ยว หรือฟันยื่นผิดปกติ การเข้ามาตรวจและวางแผนการจัดฟันตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้แก้ไขได้ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า และลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพช่องปากในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ โรคเหงือก ฟันสึก หรือการเจริญเติบโตของขากรรไกรที่ไม่สมดุล

เพราะรอยยิ้มที่มั่นใจ เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ 💙
คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกมาปรึกษาและตรวจสุขภาพฟันกับคุณหมอที่ Denta-joy ได้เลยค่ะ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกจะเติบโตไปพร้อมกับรอยยิ้มที่สวยและแข็งแรงไปตลอดชีวิต

คลิ๊กเพื่อนัดหมายและปรึกษาฟรี

Denta-joy ผู้นำนวัตกรรมจัดฟัน และทันตกรรมเพื่อความงาม “ #เริ่มต้นวันที่ดีด้วยรอยยิ้ม ”

เดนต้าจอย เป็นผู้นำนวัตกรรมจัดฟันใส Invisalign และ Brava เข้ามาเป็นเจ้าแรกในไทย ได้ออกแบบรอยยิ้ม และเป็นผู้ให้การรักษา ด้วยการจัดฟันแบบใส ที่มีจำนวนเคสมากที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบการณ์จัดฟันใส Invisalign มากกว่า 9,000 เคส

ผู้นำการจัดฟันแบบมองไม่เห็น ตั้งแต่ 1983

1983 จัดฟันด้านใน Lingual Braces ที่แรกในประเทศไทย

2000 จัดฟันใส Invisalign ที่แรกในประเทศไทย ให้การรักษากว่า 9,000 + เคส

2019 จัดฟันมองไม่เห็น Brava by BRIUS ที่แรกในเอเชีย สะดวก รวดเร็ว มองไม่เห็น เป็นคลินิกแรกนอกประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้นำนวัตกรรมเครื่องมือจัดฟันเร็วด้านในอย่าง Brava by BRIUS