รากฟันสำคัญอย่างไร
ในฟันแต่ละซี่จะประกอบไปด้วย ส่วนของตัวฟันและรากฟัน ซึ่งรากฟันจะเป็นส่วนที่ช่วยยึดให้ตัวฟันยึดติดอยู่กับกระดูกขากรรไกร โดยจะมีองค์ประกอบที่สำคัญภายในคือ คลองรากฟัน ที่เป็นที่อยู่ของโพรงประสาทฟัน เป็นส่วนที่รับสัญญาณต่าง ๆ เช่น เมื่อเวลาที่เราดื่มน้ำเย็นมาก ๆ แล้วรู้สึกเสียวฟัน เพราะในฟันของเราจะมีรูพรุนเล็กที่เรียกว่า ท่อเนื้อฟัน ที่จะส่งต่อความเย็นจากน้ำไปยังโพรงประสาทฟันและเมื่อเราดูแลฟันซี่นั้นไม่ดี เกิดการผุที่เนื้อฟัน แล้วไม่ได้รับการรักษาโดยการอุดฟันก็จะทำให้การผุลุกลามต่อเนื่องจนทำให้เกิดการติดเชื้อไปถึงปลายรากฟันได้ คนไข้ก็จะมีอาการปวดฟันตามมา ซึ่งหากถึงขั้นปวดฟันแล้วต้องมาพบทันตแพทย์เพื่อประเมินแนวทางการรักษาว่ายังสามารถเก็บฟันซี่นั้น ๆ ได้หรือไม่ ถ้าเก็บได้ทันตแพทย์ก็จะแนะนำเพื่อทำการรักษาคลองรากฟันต่อไป
“รักษารากฟัน เป็นการนำส่วนที่ติดเชื้อในโพรงประสาทฟันและในคลองรากฟันออกไป และทำให้ปราศจากเชื้อเพื่อเก็บฟันซี่นั้นเอาไว้ โดยจะใช้วัสดุอุดคลองรากฟันทำการอุด เพื่อทำให้ปราศจากเชื้อ พบบ่อยในคนไข้ที่ฟันผุมาก”
อะไรคือสัญญาณที่บอกว่าให้ระวัง ปัญหาเรื่องรากฟัน
- รู้สึกเสียวฟันมากในเวลาทานของร้อนและของเย็น
- รู้สึกปวดฟัน
- ปวดฟันระหว่างกัดฟันและเคี้ยวอาหาร
- เวลากัดฟันหรือเคี้ยวอาหารแล้วรู้สึกตึงเสียว
- ฟันผุลึก
- ฟันได้รับการกระทบกระแทกอย่างรุนแรง
- ฟันมีสีเปลี่ยนไปจากเดิม
- เป็นโรคเหงือกอยู่แล้ว
*มีหลายกรณีที่โพรงประสาทฟัน หรือคลองรากฟันถูกทำลาย บางครั้งก็ไม่เกิดอาการบ่งบอก ทันตแพทย์ต้องทำการเอกซเรย์ฟันเพื่อดู

ขั้นตอนการรักษารากฟัน
ทันตแพทย์จะใช้แผ่นยางบาง ๆ (Rubber Dam) แยกฟันซี่ที่ติดเชื้อออกจากซี่อื่น ๆ จากนั้นจะนำส่วนที่ติดเชื้อออก ล้างทำความสะอาดคลองรากฟัน ใส่ยาฆ่าเชื้อและนัดมาอีกครั้งเพื่อประเมินอาการ หากคนไข้ไม่มีความผิดปกติใด ๆ แล้วทันตแพทย์จะทำการอุดปิดคลองรากฟันและส่งตัวคนไข้ไปพบทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์ต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้ฟันที่ได้รับการรักษารากฟันมีความแข็งแรงและใช้งานได้ยาวนาน
เริ่มต้นการรักษารากฟัน
ขั้นตอนที่ 1
พบทันตแพทย์ เพื่อตรวจประเมินและให้คำแนะนำในการรักษา หากคนไข้พร้อมก็สามารถเริ่มกระบวนการรักษาได้เลย
ขั้นตอนที่ 2
ตรวจติดตามอาการหากไม่มีอาการผิดปกติ ในครั้งนี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการรักษา
ขั้นตอนที่ 3
พบทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมประดิษฐ์เพื่อปรึกษาเรื่องครอบฟัน
ข้อควรปฏิบัติระหว่างการรักษารากฟัน
คงไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปว่าเมื่อรักษารากฟันแล้วจะปวดฟันอีกหรือไม่ เพราะฟันที่รักษารากฟันแล้ว จะถูกกำจัดเส้นประสาทฟันออกจึงย่อมไม่มีความเจ็บปวดอีกการรักษารากฟันมีข้อดีที่เห็นได้ชัดคือสามารถเก็บรักษาฟันไว้ใช้งานได้ต่อไปและดีกว่าฟันปลอม เพราะฟันที่รักษารากแล้วก็เหมือนฟันในปากซี่อื่นๆ คือ มีเบ้ากระดูกยึดให้ฟันมั่นคงแข็งแรงและให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการใส่ฟันปลอม
ฟันที่รับการรักษารากฟันจะอยู่ได้นานเท่าไร
ฟันที่ได้รับการรักษาหรือฟื้นฟูสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตถ้ามีการดูแลอย่างเหมาะสม เพราะฟันผุยังสามารถเกิดขึ้นได้อีกในฟันที่รับการรักษาแล้ว สุขอนามัยของปากและฟันที่ดีตลอดจนการพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
คำถามที่พบบ่อย : การรักษารากฟัน
Q : รักษารากฟันคืออะไร
A : คือการกำจัดเส้นประสาทฟัน และเนื้อเยื่อในโพรงฟันที่ติดเชื้อออก เพื่อให้หายจากอาการปวดฟัน และกำจัดสาเหตุของหนองปลายรากฟันออกไป
Q : ฟันที่รับการรักษาจะอยู่ได้นานเท่าไร
A : ฟันที่ได้รับการรักษาหรือฟื้นฟูสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตถ้ามีการดูแลอย่างเหมาะสม
Q : อะไรคือสัญญาณที่จะต้องได้รับการรักษารากฟัน
A : สัญญาณเหล่านี้ประกอบไปด้วย
- อาการปวดฟันที่รุนแรงอันเนื่องมาจากแรงกดที่เกิดจากการบดเคี้ยว
- อาการเสียวฟันหรือปวดฟันที่ยาวนานกว่าปกติเมื่อดื่ม หรือ รับประทานอาหารที่เย็นหรือร้อนจัด
- การเปลี่ยนสี (ดำขึ้น) ของฟัน
- อาการบวม หรือ อ่อนตัวลงของเหงือกบริเวณใกล้เคียง
- อาการปูดบวมของเหงือกที่ไม่หายขาด หรือกลับมาเป็นอีกบ่อยๆ
สำหรับผู้ที่สนใจการจัดฟัน และการทันตกรรมเพื่อความงามในราคาสมเหตุสมผล คลินิกทันตกรรม Denta-joy คือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ เราพร้อมให้คำปรึกษาและรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Line Official: @dentajoy
โทร 095-491-8659