รากฟันเทียมคืออะไร ทำไมต้องทำ?

การสูญเสียฟันแท้คือเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ทุกปัญหามีทางออก! หากคุณสูญเสียฟันแท้ไปแล้วก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำรากฟันเทียม ซึ่งถือเป็นฟันปลอมที่ดีและเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับฟันแท้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถพูดและยิ้มได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังช่วยให้ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารดีขึ้นด้วย หลายคนอาจจะเข้าใจว่ารากเทียมต้องทำในผู้ที่มีอายุมากเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วรากเทียมสามารถทำการรักษาได้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ ซึ่งช่วงวัยที่สามารถทำรากฟันเทียมได้ คือ อายุ 18 ปีขึ้นไป อยากรู้จักและเข้าใจการทำรากฟันเทียมให้มากขึ้น ต้องอ่านบทความนี้

1. รากฟันเทียมคืออะไร

รากฟันเทียม หรือ ทันตกรรมรากเทียม (Dental Implant) คือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟันทำจากไทเทเนียมซึ่งเป็นวัสดุที่เข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดี ใช้สำหรับฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อช่วยในการทำฟันเทียมแบบติดแน่น หรือแบบถอดได้ โดยจะรักษาด้วยการฝังโครงรากเทียมเพื่อยึดติดกับกระดูกขากรรไกรตรงตำแหน่งที่สูญเสียฟันหรือไม่มีฟันในตำแหน่งนั้นมาตั้งแต่แรก จากนั้นทันตแพทย์จะทำฟันปลอมมายึดติดกับรากฟันเทียมเอาไว้ ซึ่งตัวรากเทียมนี้จะทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติเพื่อรองรับการทำฟันปลอม ครอบฟัน หรือสะพานฟัน ในลำดับต่อไป

อ่านเพิ่มเติม
ทันตกรรมเพื่อความงาม

รากเทียมประกอบไปด้วย

  • Fixture ส่วนที่ฝังอยู่ใต้เหงือก ทำหน้าที่แทนรากฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป
  • Abutment ส่วนที่ทดแทนโครงสร้างฟัน ใช้สำหรับรองรับครอบฟัน ซึ่งจะอยู่ระหว่าง Fixture และ Crown
  • Crown ส่วนของตัวฟัน ซึ่งทำมาจากเซรามิกสำหรับใช้ในทางการแพทย์ มีรูปทรงคล้ายกับฟันจริง เป็นส่วนที่ใช้บดเคี้ยวอาหาร

2. ชนิดของรากฟันเทียม

โดยหลัก ๆ แล้ว รากฟันเทียมสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ซึ่งการจะเลือกรักษาด้วยวิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและสภาพช่องปากของคนไข้แต่ละเคส

CONVENTIONAL IMPLANT

คือ การฝังรากเทียมแบบธรรมดาหรือแบบทั่ว ๆ ไป โดยขั้นตอนการรักษาจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการฝังรากเทียมแล้วรอประมาณ 3 เดือน เพื่อให้กระดูกยึดติดกับรากเทียม และช่วงติดฟันปลอมเข้ากับรากเทียม วิธีการนี้เหมาะสำหรับทั้งคนไข้ที่ต้องการทำรากฟันซี่เดียวและหลายซี่ แต่สำหรับผู้ที่มีปริมาณกระดูกในบริเวณที่ต้องฝังรากเทียมน้อยมาก จำเป็นต้องมีการปลูกกระดูกก่อนทำ

IMMEDIATE IMPLANT

คือ การฝังรากเทียมทันทีหลังจากที่ถอนฟันออก โดยจะใช้ระยะเวลาในการปลูกถ่ายเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น ซึ่งข้อดีก็คือ โอกาสการละลายของกระดูกหรือการเกิดเหงือกร่นลดลง แถมยังลดระยะเวลาในกระบวนการรักษาด้วย ตำแหน่งฟันที่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้ คือฟันหน้าหรือฟันกรามน้อย และต้องไม่มีพยาธิสภาพที่ปลายรากฟันซี่ที่จะถอนออก จึงเป็นวิธีซึ่งเหมาะสำหรับผู้มีสภาพกระดูกขากรรไกรสมบูรณ์ดี

IMMEDIATE LOADED IMPLANT

คือ การเชื่อมต่อส่วนของฟันปลอมหรือทันตกรรมประดิษฐ์ เช่น ครอบฟันทั้งแบบชั่วคราวและแบบถาวร โดยหลังจากที่ทันตแพทย์ฝังรากเทียมที่กระดูกขากรรไกรแล้ว ก็จะใส่ครอบฟันไปที่รากทันที ซึ่งวิธีนี้สามารถลดระยะเวลาในการรักษาไปได้มาก แต่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพกระดูกขากรรไกรสมบูรณ์ดีเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม
รากฟันเทียมแบบไหนที่เหมาะกับคุณ

3. ประโยชน์ของการฝังรากฟันเทียม

การทำรากเทียมมีข้อดีและประโยชน์มากมายในด้านสุขภาพช่องปาก ดังนี้

  • ได้ฟันเทียมที่ดูเป็นธรรมชาติ และสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
  • ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ และคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
  • สามารถพูดและบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการออกเสียง เมื่อเทียบกับฟันเทียมชนิดอื่น ๆ
  • สามารถช่วยลดการสูญเสียเคลือบฟันและเนื้อฟันในการทำฟันเทียมชนิดสะพานฟัน (Bridge) ของฟันซี่ข้างเคียงตำแหน่งที่หายไปได้
  • ช่วยลดปัญหาการเคลื่อนตัว การหลุดออก และความวิตกเกี่ยวกับปัญหาอื่น ๆ ของฟันปลอมได้
  • มีความคงทนและถาวร
  • เสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี อีกทั้งมอบความสวยงามและเป็นธรรมชาติอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาสูญเสียฟันแท้หรือรากฟันธรรมชาติ และสนใจทำทันตกรรมรากฟันเทียม เพื่อคืนความมั่นใจและเสริมสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี Denta-joy THE ORTHODONTIST พร้อมให้คำแนะนำและให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่เบอร์ 095-491-8659