เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้ฟันสวย

เลี้ยงลูกให้ฟันสวย ต้องทำอย่างไร ฟันน้ำนม ฟันแท้ ขึ้นเมื่ออายุเท่าไหร่ อายุเท่าไหร่ต้องพาลูกไปหาหมอจัดฟัน

เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้ฟันสวย

สวัสดีค่ะ วันนี้เดนต้าจอยมีเคล็ดลับดีๆมาฝากค่ะ เป็นวิธีการดูแลฟันเด็กๆหรือบุตรหลานของท่านตั้งแต่ช่วงฟันน้ำนมจนถึงฟันแท้ ให้ห่างไกลฟันผุ และนำไปสู่สุขภาพในช่องปากที่ดีมีรอยยิ้มที่สวยงามกันนะคะ จะมีวิธีใดบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ทางเดนต้าจอย แนะนำให้พาบุตรหลาน มาพบคุณหมอจัดฟันตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ช่วงนี้เด็กจะมีฟันน้ำนมและฟันแท้ขึ้นผสมกัน หรือที่เรียกว่าฟันผสม เพื่อตรวจดูว่ามีความผิดปรกติของฟัน และการเจริญเติบโตของขากรรไกรหรือไม่ เราสามารถแก้ไขรูปหน้าและโครงสร้างใบหน้าของเด็ก ให้มีความสมดุล จะมีการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่างและขากรรไกรบนไปในทิศทางปรกติ

YouTube video

ก่อนที่จะทราบถึงวิธีการดูแลฟันของบุตรหลานของท่าน เรามาทราบช่วงเวลาการขึ้นของฟันน้ำนมและฟันแท้กันก่อนนะคะ

ช่วงระยะเวลาที่ฟันน้ำนมขึ้น จะอยู่ในช่วงอายุดังนี้ค่ะ

ฟันน้ำนมด้านบน

  • ฟันหน้าซี่ตรงกลาง จะขึ้นตอนอายุประมาณ 8 เดือน
  • ฟันหน้าซี่ด้านข้าง จะขึ้นตอนอายุประมาณ: 9 เดือน
  • ฟันเขี้ยว จะขึ้นตอนอายุประมาณ 16 เดือน
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 1 จะขึ้นตอนอายุประมาณ 13 เดือน
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 2 จะขึ้นตอนอายุประมาณ: 25 เดือน

ฟันน้ำนมด้านล่าง

  • ฟันหน้าซี่ตรงกลาง จะขึ้นตอนอายุประมาณ 6 เดือน
  • ฟันหน้าซี่ด้านข้าง จะขึ้นตอนอายุประมาณ 10 เดือน
  • ฟันเขี้ยว จะขึ้นตอนอายุประมาณ 17 เดือน
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 1 จะขึ้นตอนอายุประมาณ 14 เดือน
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 2 จะขึ้นตอนอายุประมาณ 23 เดือน

และช่วงอายุที่ฟันน้ำนมจะหลุดแล้วมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ จะอยู่ในช่วงอายุ ดังนี้ค่ะ

ฟันน้ำนมบน

  • ฟันหน้าซี่ตรงกลาง จะหลุดตอนอายุประมาณ 8 ปี
  • ฟันหน้าซี่ข้ด้านข้าง จะหลุดตอนอายุประมาณ 9 ปี
  • ฟันเขี้ยว จะหลุดตอนอายุประมาณ 11 ปี
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 1 จะหลุดตอนอายุประมาณ 10 ปี
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 2 จะหลุดตอนอายุประมาณ 12 ปี

ฟันน้ำนมล่าง

  • ฟันหน้าซี่ตรงกลาง จะหลุดตอนอายุประมาณ 6 ปี
  • ฟันหน้าซี่ด้านข้าง จะหลุดตอนอายุประมาณ 7 ปี
  • ฟันเขี้ยว จะหลุดตอนอายุประมาณ 9 ปี
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 1 จะหลุดตอนอายุประมาณ 10 ปี
  • ฟันกรามน้ำนมซี่ที่ 2 จะหลุดตอนอายุประมาณ 11 ปี

เมื่อฟันน้ำนมเริ่มหลุด ฟันแท้ก็จะทยอยขึ้นมาแทนที่ค่ะ ในชุดฟันน้ำนม จะมีจำนวนซี่เพียง 20 ซี่นะคะ แต่ฟันแท้จะมีจำนวนซี่อยู่ทั้งหมด 32 ซี่ค่ะ ซึ่งหน้าที่ของฟันน้ำนม นอกเหนือจากใช้บดเคี้ยวอาหาร ช่วยในการออกเสียงแล้ว ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ค่ะ นั่นก็คือ การจองพื้นที่ไว้สำหรับให้ฟันแท้ มีที่เพียงพอในการขึ้นมาตามช่วงอายุของฟันเด็กในแต่ละช่วงวัยอีกด้วยค่ะ

หลังจากที่ทราบช่วงอายุในการขึ้นของฟันเด็กกันเรียบร้อยแล้ว เรามาดูเทคนิคการเลี้ยงลูกให้ฟันสวยต่อเลยค่ะ

เทคนิคการดูแลฟันเด็กให้มีฟันที่สวยงาม

ในช่วงเด็กแรกเกิด ช่วงแรกเกิดที่เด็กยังฟันไม่ขึ้น สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ เช็ดทำความสะอาดเหงือกลูกเบาๆ หลังดูดนมเสร็จ รวมทั้งเช็ดบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นด้วย

ช่วงอายุ 6 เดือน ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและให้ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ หรือเมื่อฟันน้ำนมขึ้นแล้ว ควรใช้นิ้วพันผ้าถูทำความสะอาดที่บริเวณฟันของเด็กให้สะอาดเช่นเดียวกับการทำความสะอาดเหงือก ในช่วงนี้ฟันของเด็กยังมีขนาดเล็กอยู่ ทำให้การใช้แปรงสีฟันอาจไม่สะดวกนัก เมื่อเทียบกับการใช้ผ้าพันนิ้วของผู้ปกครอง

ช่วงอายุ 1-3 ปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฟันของเด็กมีขนาดใหญ่ขึ้น และสามารถเริ่มใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กได้แล้ว ผู้ปกครองควรเริ่มสอนลูกแปรงฟัน โดยลองแปรงฟันให้ลูกก่อน และฝึกให้ลูกรู้จักการบ้วนน้ำก่อนที่จะให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง เพราะหากเด็กเผลอกลืนยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้าไปก็อาจส่งผลเสียกับฟันของเด็กได้ค่ะ

ช่วงอายุ 3-4 ปี เด็กเริ่มแปรงฟันเองได้แล้ว แต่ก็ยังต้องคอยตรวจเช็คความสะอาดหลังแปรงฟันทุกครั้งนะคะ นอกจากนี้ควรพาลูกไปพบหมอฟันเป็นประจำเพื่อเช็คสุขภาพปากและฟัน รวมถึงรับคำแนะนำในการดูแล เพราะเด็กวัยนี้ชอบกินขนมขบเคี้ยว หรือบางกิจกรรมอาจทำให้มีปัญหาฟันได้ เช่น การว่ายน้ำ เป็นต้น

ช่วงเด็กอายุเด็ก 6 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นมาทดแทนแล้ว ทำให้ฟันน้ำนมจะเริ่มโยกและหลุดไปเอง แต่หากฟันแท้ขึ้นมาแล้ว แต่ฟันน้ำนมยังไม่ยอมหลุดนานเกิน  3 เดือน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา หรือ ถอนฟันน้ำนมออกเพื่อฟันแท้จะได้ขึ้นได้มาอย่างเป็นระเบียบ

วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเด็ก

  1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติหวาน หรือ ขนมที่มีน้ำตาล
  2. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งคือ เช้า และ ก่อนนอน หรือ ควรแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร
  3. พาเด็กไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันเริ่มขึ้น
  4. สอนให้เด็กบ้วนปากและแปรงฟันให้ได้ด้วยตัวเอง เมื่อเด็กสามารถบ้วนปากได้อาจเริ่มสอนให้เด็กแปรงฟันด้วยตัวเอง โดยการจับมือเพื่อหัดก่อน และใช้ยาสีฟันขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว รวมทั้งเลือกยาสีฟันสำหรับเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 

เคล็ดลับการการเลือกยาสีฟันและแปรงสีฟันสำหรับเด็ก

  1. ให้เด็กเลือกแปรงสีฟันรวมถึงอุปกรณ์การแปรงฟันตามที่ชื่นชอบ เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากแปรงฟัน
  2. การเลือกแปรงสีฟันควรเลือกให้เหมาะสมในแต่ละวัย และให้เหมาะกับขนาดปากและฟันของเด็ก ขนต้องนุ่ม ที่จับต้องถนัดกับมือเด็กจะทำให้จับได้อย่างถนัดมือ
  3. เลือกยาสีฟันที่มีกลิ่นและรสผลไม้ที่เด็กชอบ และควรเลือกยาสีฟันที่มีไซลิทอล หรือสารให้ความหวานจากธรรมชาติคุณภาพสูงที่ไม่ก่อให้เกิดฟันผุ
  4. เลือกยาสีฟันที่ไม่มีสารโซเดียม ลอรีล ซัลเฟต หรือ SLS เพื่อความปลอดภัยของเด็ก
  5. การเลือกยาสีฟัน ควรเลือกยาสีฟันสูตรปราศจากฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันการเผลอกลืนยาสีฟันโดยไม่ตั้งใจ โดยยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์ในบางชนิดจะทดแทนด้วยแคลเซียม และ ฟอสเฟต ซึ่งจะช่วยป้องกันฟันผุอย่างได้ผลเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าทำทุกวิธีแล้ว ฟันเด็กก็ยังมีความห่าง ซ้อนเก หรือยื่น ก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะบางที ปัญหาที่มี อาจเกิดจากปัจจัยอื่นร่วมด้วยก็เป็นได้ค่ะ เช่น กรณีที่ติดขวดนมหรือจุกนมปลอม ชอบดูดนิ้ว นอนหายใจทางปาก เป็นต้น ซึ่งปัญหาฟันเด็กต่างๆที่มี สามารถแก้ได้ด้วยการจัดฟันเด็กค่ะ

การจัดฟันเด็ก ทำได้ตั้งแต่กี่ขวบ

ผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานของท่าน มาพบทันตแพทย์ได้ตั้งแต่อายุ 6-7 ปี เพื่อตรวจประเมินความเสี่ยงได้เลยนะคะ และเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับการมาทำฟันให้เด็ก เมื่อครั้งแรกที่มาตรวจแล้วไม่เจ็บ เด็กก็จะไม่กลัวการมาทำฟันด้วยค่ะ โดยในครั้งแรกที่มาพบ ทันตแพทย์จะเป็นการตรวจสุขภาพในช่องปากทั่วๆไปก่อน และถ้าพบปัญหา คุณหมอจะให้ข้อมูลเบื้องต้นถึงแนวทางในการดูแลและเริ่มต้นการรักษากันต่อไปค่ะ

ซึ่งการรักษาจัดฟันเด็กจะมี 2 ช่วง ดังนี้ค่ะ

1 ช่วง first stage  เป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นที่พบทันที ส่วนใหญ่จะเป็นการแก้ปัญหาที่โครงสร้างของขากรรไกรและรูปหน้า ในช่วงนี้จะเป็นชุดฟันที่ผสมระหว่างฟันน้ำนมกับฟันแท้ โดยเฉลี่ยใช้เวลาในการรักษาประมาณ 12 – 13 เดือน 

2 ช่วง second stage  คือช่วงวัยที่ฟันแท้ขึ้นมาครบแล้ว เป็นการรักษาต่อจากช่วง first stage  ซึ่งในบางเคสหากปัญหาได้รับการแก้ไขสมบูรณ์แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องจัดฟันเด็กต่อก็ได้ แต่หากยังคงมีปัญหาหลงเหลืออยู่ คุณหมอจะทำการรักษาต่อจนกระทั่งการจัดฟันเด็กเสร็จเรียบร้อย 

ข้อดีของการจัดฟันเด็ก

  1. การจัดฟันเด็กมีผลต่อการพัฒนาโครงสร้างใบหน้าและขากรรไกรให้เป็นอย่งสมดุล
  2. ช่วยให้การเรียงตัวของฟันเป็นไปอย่างเหมาะสม
  3. ช่วยปรับความสมมาตรของใบหน้าโดยรวม
  4. ช่วยป้องกันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคำพูด
  5. ช่วยให้เกิดความมั่นใจในการพูดและยิ้ม
  6. ลดระดับความรุนแรงของปัญหาที่หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ความซับซ้อนและความยุงยากของการรักษาเพิ่มมากขึ้น

ทราบข้อมูลเบื้องต้นอย่างนี้แล้ว ลองสังเกตบุตรหลานที่บ้านกันดูนะคะ หากพบปัญหา หรือมีข้อสงสัย ปรึกษาเดนต้าจอยได้เลยนะคะ เรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำและดูแลค่ะ

Denta-joy ผู้นำนวัตกรรมจัดฟัน และทันตกรรมเพื่อความงาม “ #เริ่มต้นวันที่ดีด้วยรอยยิ้ม💙

เดนต้าจอย เป็นผู้นำนวัตกรรมจัดฟันใส Invisalign และ Brava เข้ามาเป็นเจ้าแรกในไทย ได้ออกแบบรอยยิ้ม และเป็นผู้ให้การรักษา ด้วยการจัดฟันแบบใส ที่มีจำนวนเคสมากที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบการณ์จัดฟันใส Invisalign มากกว่า 9,000 เคส

ผู้นำการจัดฟันแบบมองไม่เห็น ตั้งแต่ 1983

🔹1983 จัดฟันด้านใน Lingual Braces ที่แรกในประเทศไทย
🔹2000 จัดฟันใส Invisalign ที่แรกในประเทศไทย ให้การรักษากว่า 9,000 + เคส
🔹2019 จัดฟันมองไม่เห็น Brava by BRIUS ที่แรกในเอเชีย สะดวก รวดเร็ว มองไม่เห็น เป็นคลินิกแรกนอก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้นำนวัตกรรมเครื่องมือจัดฟันเร็วด้านในอย่าง Brava by BRIUS

.📱นัดหมาย ปรึกษาจัดฟันฟรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Inbox : https://m.me/DentajoyDental
Add Line ID : @dentajoy (https://lhco.li/3HtAw86)
โทร : 095-491-8659
รีวิว https://dentajoy.com/dentajoy-before-after
สาขา https://dentajoy.com/branch-locations
รู้จักกับการจัดฟันเร็ว Brava https://dentajoy.com/brava-by-brius/

Internationnal Patient
For Chinese Wechat : chinesemkt
For English LINE: dentajoy.eng.

#Dentajoy #ผู้นำเทรนด์การจัดฟัน #จัดฟันด้านใน #จัดฟันbrava #จัดฟัน #จัดฟันใส #invisalign #จัดฟันเร็ว #BravabyBrius #จัดฟันเด็ก #veneer

* รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่คลินิกกำหนด