ถ้าตอนเด็กฟันน้ำนมห่าง โตมาต้องจัดฟันหรือไม่

ฟันน้ำนมห่าง

เคยสงสัยไหมคะ ถ้าฟันน้ำนมห่างมีช่องระหว่างฟันต่ละซี่ หรือมีฟันน้ำนมห่างเป็นบางซี่ ถ้าในตอนโต ฟันจะชิดกันเอง หรือจำเป็นต้องจัดฟัน และต้องเริ่มจัดฟันในเด็กเลยหรือเปล่า วันนี้ เดนต้าจอย จะมาไขข้อข้องใจให้ทราบกันนะคะ

ฟันน้ำนมห่างเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง

ส่วนใหญ่ สาเหตุของปัญหาฟันน้ำนมห่างในเด็ก มีดังนี้

  1. มักเกิดจากการใช้ลิ้นดันฟันหน้า หรือมีการกลืนแบบผิดปกติ โดยมาจากการที่ใช้ลิ้นดันไปที่ด้านหลังของฟันหน้าขณะที่กลืนอาหารหรือน้ำลาย จนเกิดแรงดันที่มากระทบกับฟันหน้า 
  2. การดูดนิ้วโป้งอาจทำให้แรงดันจากการดูดนิ้วไปกระทบกับฟันหน้า
  3. พังผืดที่เหงือกมีความหนามากกว่าปกติ ซึ่งมักเกิดตรงบริเวณบริเวณฟันหน้าบนคู่กลาง
  4. ภาวะลิ้นติด ก็อาจทำให้เกิดแรงดันจนเกิดเป็นช่องว่างระหว่างฟันหน้าล่างคู่กลาง
  5. ภาวะโรคประจำตัวของระบบทางเดินหายใจบางประเภท ที่ทำให้ไม่สามารถหายใจทางจมูกได้สะดวก

วิธีแก้ปัญหาฟันน้ำนมห่าง

สำหรับปัญหาฟันน้ำนมห่าง ทางเลือกของการรักษาจะขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาที่มี เช่น 

1. ฟันน้ำนมห่าง จากการมีพังผืดหนาที่บริเวณเหงือก หรือมีภาวะลิ้นติด ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดพังผืดเหงือกออก โดยทำให้เนื้อเยื่อที่เชื่อมระหว่างริมฝีปากบนกับเหงือกให้หลุดออกจากกัน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาฟันน้ำนมห่าง ที่เกิดจากพังผืดเชื่อมติดโดยยังไม่ต้องจัดฟันในเด็กก็ได้

2. ฟันน้ำนมห่าง จากกรณีที่เกิดจากพฤติกรรมของเด็ก เช่น ชอบดูดนิ้ว ใช้ลิ้นดุนฟัน แนะนำเรื่องการใส่เครื่องมือสำหรับปรับพฤติกรรม เพื่อช่วยลดระดับความรุนแรงของปัญหา และหากยังคงมีปัญหาฟันน้ำนมห่างอยู่ ในแบบที่หากปล่อยทิ้งไว้ แล้วทำให้การแก้ไขอาจยุ่งยากมากขึ้นในอนาคต อาจพิจารณาเริ่มต้นการรักษาจัดฟันในเด็กได้โดยไม่ต้องรอจนเด็กโต

3. ภาวะโรคประจำตัวของระบบทางเดินหายใจบางประเภท ควรพบแพทย์เฉพาะทางด้าน หู คอ จมูก เพื่อตรวจหาสาเหตุและจะได้ทำการรักษาได้ตรงกับลักษณะของโรค และพบคุณหมอจัดฟันเพื่อประเมินความจำเป็นของการรักษาทางด้านปัญหาของฟัน

ดังนั้น ถ้าฟันน้ำนมห่าง โตมาต้องจัดฟันหรือไม่ ในส่วนนี้คงต้องพาเด็กมาตรวจประเมินกับคุณหมอร่วมด้วยค่ะ เพื่อพิจารณาตามลักษณะปัญหาที่มีอยู่ค่ะ

เมื่อใดที่ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์

เมื่อพบความผิดปกติในเรื่องการเรียงตัวของฟัน หรือฟันน้ำนมห่าง แม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรพามาพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจประเมินและวิเคราะห์สาเหตุ และรับคำแนะนำความจำเป็นของการรักษาว่าควรต้องทำการรักษาจัดฟันในเด็กเลย หรือสามารถรอเวลาได้

การจัดฟันในเด็ก มีประโยชน์อย่างไร

การจัดฟันในเด็ก ช่วยแก้ไขปัญหาฟันและสุขภาพช่องปากโดยรวมได้ดังต่อไปนี้:

– การจัดฟันในเด็กช่วยแก้ปัญหาช่องปาก: การจัดฟันในเด็กช่วยแก้ไขปัญหาฟันซ้อนฟันเก ฟันเบียดติดกันมากเกินไป ฟันน้ำนมห่าง หรือกระดูกขากรรไกรผิดปกติ ที่ส่งผลให้การสบฟันผิดปกติและทำความสะอาดช่องปากลำบากขึ้น เพิ่มคุณภาพชีวิตของเด็กและป้องกันปัญหาในอนาคต

– การจัดฟันในเด็กสำหรับเตรียมความพร้อมของฟันแท้: สำหรับเด็กที่ฟันน้ำนมหลุดหรือฟันน้ำนมถูกถอนไปก่อนกำหนด เช่น เด็กโตเร็วหรือประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ฟันหลุดหรือต้องถอน การจัดฟันในเด็กจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันปัญหาฟันรอบข้างและป้องกันไม่ให้ฟันแท้ซ้อนเก

–  การป้องกันพฤติกรรมเสี่ยง: หากเด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อปัญหาฟัน เช่น การดูดนิ้ว การนอนกัดฟัน การทานอาหารที่เหนียวหรือแข็งมากเกินไป หรือขาดการดูแลช่องปาก การจัดฟันในเด็กอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาฟันในอนาคตได้

การจัดฟันในเด็กไม่เพียงแต่เป็นเรื่องความสวยงามแต่ยังเป็นเรื่องสุขภาพที่สำคัญ เพื่อให้เด็กมีฟันแข็งแรงและป้องกันปัญหาทางช่องปากในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลเพิ่มเติม
ควรเริ่มวางแผนจัดฟันเด็ก ตอนอายุเท่าไรดี
ปัญหาฟันเด็ก จะส่งผลต่อโครงสร้างของใบหน้าในอนาคตหรือไม่

ปัญหาฟันเด็ก จะส่งผลต่อโครงสร้างของใบหน้าในอนาคตหรือไม่
YouTube video

การดูแลฟันน้ำนมและสุขภาพช่องปากของเด็ก

ตามธรรมชาติแล้วฟันน้ำนมเด็กจะหลุดตั้งแต่อายุ 6-12 ปี จากนั้นจะมีฟันแท้ทยอยงอกขึ้นมาแทนที่จนครบเมื่ออายุ 18 ปี แต่ช่วงที่ฟันแท้ยังไม่ขึ้นมาอาจมีช่วงที่ฟันน้ำนมจะหลุดได้เนื่องจากฟันน้ำนมแข็งแรงน้อยกว่าฟันแท้ บวกกับช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุง่ายกว่า จึงมีโอกาสสูญเสียฟันน้ำนมง่ายกว่าด้วย นอกจากนี้อาจเกิดจากภาวะโตเร็วกว่าปกติได้ด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามการดูแลฟันน้ำนมก็เป็นเรื่องจำเป็น ผู้ปกครองสามารถช่วยลูกดูแลฟันน้ำนมได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1. ทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี

แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือกรณีแปรงให้ลูก เหมาะกับเด็กที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป และกรณีสอนให้ลูกแปรงเอง เหมาะกับเด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป ดังนี้

1.1 กรณีแปรงให้ลูก จัดท่านั่งหรือนอนให้ลูกและตัวผู้ปกครองเองรู้สึกสบาย ๆ สามารถอุ้มหรือจับนอนตักสะดวก จากนั้นจึงบีบยาสีฟันเล็กน้อย ค่อย ๆ แปรงอย่างเบามือ ทั้งนี้ไม่ควรใช้เวลาแปรงนานไป อาจทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดเวลาแปรงฟันครั้งต่อไป

1.2 กรณีสอนให้ลูกแปรงเอง ผู้ปกครองยืนข้างลูก จากนั้นยืนตรงหน้ากระจกเพื่อสำรวจตัวเองขณะแปรงฟัน จากนั้นสอนลูกว่าควรแปรงส่วนไหนก่อน-หลัง หรือช่วยจับแปรงสีฟันในช่วงแรก การแปรงฟันไปพร้อมกับลูกจะช่วยให้ลูกเข้าใจหลักการแปรงฟันที่ถูกต้องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

วิธีการแปรงฟันสำหรับเด็ก

  1. วางแปรงลงบนฟันหน้าในแนวนอน ทำมุม 45 องศา ระหว่างรอยต่อของเหงือกและฟัน
  2. ขยับแปรงสีฟันไป-มาสั้น ๆ ขยับอย่างเบามือไปตามแนวเหงือกและฟัน เริ่มแปรงจากด้านนอกเข้าไปด้านในอย่างน้อย 10 ครั้ง จนกว่าจะครบทั้งฟันบนและล่าง
  3. ขยับแปรงไปยังฟันบนแล้วปัดลง ส่วนฟันล่างให้ปัดขึ้นอย่างน้อย 10 ครั้ง จากด้านนอกไปด้านใน
  4. แปรงลิ้นให้ทั่วอย่างน้อย 10 ครั้ง เพื่อกำจัดแบคทีเรียบนลิ้น
  5. เสร็จแล้วบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ฟลูออไรด์ยังคงอยู่ในปาก

และอย่าลืมพาเด็กๆไปพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากกันด้วยนะคะ ถ้าฟันน้ำนมห่าง โตมาต้องจัดฟันหรือไม่ ในส่วนนี้คงต้องพาเด็กมาตรวจประเมิน

YouTube video